หน่วยคลังข้อมูลยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

เด็กทานยา loratadin(clarityne)ชนิดน้ำเชื่อมทาน 5 ซีซี และได้เปลี่ยนเป็นยาเม็ด loratadine (lolergy)ขนาด 10 mg แต่ทานแค่ 5 mg(ครึ่งเม็ด) เพราะเหตุใดเมื่อเด็กทานยาเม็ดแล้วจึงมีอาการนอนไม่หลับ หายใจแรง กระสับกระส่าย ทานอาหารไม่ค่อยได้ ทั้งที่เป็นยาตัวเดียวกันมีคุณสมบัติเหมือนกัน ต่างกันแค่เป็นยาน้ำกับยาเม็ด (เด็กหนัก 17 kg)มียาแก้แพ้ตัวใดบางที่ไม่ส่งผลต่อไตและตับ เนื่องจากกลัวว่ายาที่ใช้จะส่งผลต่อตับและไตค่ะ

ถามโดย โฟกัส เผยแพร่ตั้งแต่ 17/09/2013-17:11:19 -- 9,311 views
 

คำตอบ

สำหรับคำถามแรกสามารถดูคำตอบได้ที่ https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=4039 ยาแก้แพ้หรือยาต้านฮีสตามีนแทบทุกตัวถูกเมแทบอลิซึมที่ตับและถูกขับออกทางไต เว้นแต่ fexofenadine และ levocetirizine ซึ่งมักขับออกทางไตโดยไม่ถูกเมแทบอลิซึม แต่การที่ยาถูกเมแทบอลิซึมหรือขับออกทางไต ไม่ได้หมายความว่ายาจะส่งผลให้การทำงานของตับหรือไตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่ควรวิตกกังวลเนื่องจาก โดยทั่วไปการใช้ยาแก้แพ้หรือยาต้านฮีสตามีนค่อนข้างมีความปลอดภัย และมีรายงานการเกิดพิษต่อตับหรือไตน้อยมาก อย่างไรก็ตามสามารถสังเกตความผิดปกติที่แสดงถึงความผิดปกติของตับ เช่น มีอาการตัวเหลือง-ตาเหลือง อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เป็นต้น และไต เช่น ปัสสาวะน้อยลง หรือ ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นผิดปกติ เป็นต้น Key words: antihistamine, metabolism, hepatic toxicity, renal toxicity, ยาต้านฮีสตามีน, การเผาผลาญและกำจัดยา, พิษต่อตับ, พิษต่อไต

Reference:
Cuvillo AD, Mullol J, Bartra J, Dávila I, Jáuregui I and Montoro J. Comparative pharmacology of theH1 antihistamines. J Investig Allergol Clin Immunol 2006;16, Supplement 1:3-12.

Keywords:
-





ทางเดินหายใจและหูตาคอจมูก ภูมิคุ้มกันและการติดเชื้อ

ดูคำถามทั้งหมด
 
ข่าวยาประจำสัปดาห์ล่าสุด


หน่วยคลังข้อมูลยา

447 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
 
ออกแบบและพัฒนาโดย งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
Copyright © 2013-2020
 
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา การใช้งานเว็บไซต์ต่อถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้