คุณหมอได้เปลี่ยนยาค่ะ จึงขอเรียนถามสรรพคุณ ยาเม็ด telfast กับ rupatadine และยาพ่น nasonex กับ dymista เป็นอย่างไรต่อไปนี้ ๑. ผลข้างเคียงถ้าใช้ประจำทุกวัน ๒. อันตรายจากการสะสมสารมีพิษถ้าใช้ประจำทุกวัน ขอบคุณมากค่ะ

คำตอบ

Telfast เป็นชื่อทางการค้าของ fexofenadine ซึ่งเป็นยาต้านฮีสทามีนรุ่นที่สอง (second generation antihistamine) เช่นเดียวกับ rupatadine ยาทั้งคู่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ บรรเทาอาการคัน ลดน้ำมูก แม้ข้อมูลจากงานวิจัยในหลอดทดลองบางฉบับจะพบว่า rupatadine มีประสิทธิภาพในการลดสารอักเสบบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับเยื่อบุโพรงจมูกได้เหนือกว่า fexofenadine [1] แต่ปัจจุบันยังไม่พบข้อมูลการศึกษาในมนุษย์ที่ระบุว่ายาชนิดใดมีประสิทธิภาพดีกว่ากัน การใช้ยาในขนาดที่แนะนำสำหรับยาทั้งสองชนิดทำให้มีระดับยาสะสมในร่างกายในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการควบคุมอาการของโรคและไม่เกิดความเป็นพิษ ทำให้การใช้ยาโดยรวมมีความปลอดภัยดี [2],[3] อาการข้างเคียงที่อาจพบได้ของยาทั้งสองชนิดนั้นมักเป็นอาการเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ มึนงง เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย [4],[5] ซึ่งไม่ได้เกิดกับผู้ที่รับประทานทุกคน ดังนั้นควรรับประทานยาต่อไปตามคำแนะนำของแพทย์หากไม่พบอาการข้างเคียงที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต Nasonex เป็นชื่อทางการค้าของ mometasone furoate ซึ่งเป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ มีข้อบ่งใช้เพื่อรักษาอาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง ส่วน Dymista เป็นชื่อการค้าของยาสูตรผสมระหว่าง azelastine ซึ่งเป็นยาต้านฮีสตามีนที่ช่วยลดน้ำมูกได้ดี และ fluticasone ซึ่งเป็นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและลดอาการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก ซึ่งยาเหล่านี้ต้องใช้ต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อควบคุมอาการ [6],[7] ดังนั้นจากส่วนประกอบของยาจะเห็นได้ว่าแพทย์ปรับเพิ่มตัวยาเพื่อช่วยควบคุมอาการทางจมูก เช่น น้ำมูกไหล หรือคัดจมูก [8] และเนื่องจากเป็นรูปแบบใช้เฉพาะที่ มีการดูดซึมเข้าหลอดเลือดค่อนข้างน้อย จึงไม่ก่อให้เกิดการสะสมในระดับที่จะเป็นพิษต่อร่างกาย สำหรับอาการข้างเคียงที่พบได้สำหรับยาพ่นจมูกทั้งสองชนิด ได้แก่ เลือดกำเดาไหล ระคายเคืองบริเวณที่สูดพ่น เป็นต้น [6],[7] ในภาพรวมคาดว่าแพทย์พิจารณาปรับเปลี่ยนยาเพื่อช่วยควบคุมอาการของโรคให้ดีขึ้น ดังนั้นการใช้ยาตามคำสั่งแพทย์จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต อย่างไรก็ตามหากมีอาการผิดปกติหรือมีการควบคุมโรคที่แตกต่างไปจากเดิมควรแจ้งแพทย์เพื่อประเมินและปรับการรักษาให้เหมาะสมยิ่งขึ้นต่อไป

Reference:
1. Shamizadeh S, Brockow K, Ring J. Rupatadine: e¬fficacy and safety of a non-sedating antihistamine with PAF-antagonist effects. Allergo J Int. 2014;23:87-95.
2. Okubo K, Suzuki T, Tanaka A, Aoki H. Long-term safety and efficacy of rupatadine in Japanese patients with perennial allergic rhinitis: a 52-week open-label clinical trial. Journal of drug assessment. 2019;8(1):104-14.
3. Meeves SG, Appajosyula S. Efficacy and safety profile of fexofenadine HCl: A unique therapeutic option in H 1-receptor antagonist treatment. J allergy clin immunol. 2003;112(4):S69-77.
4. Marion DW. Rupatadine: Drug information. Post TW, ed. UpToDate. Waltham, MA: UpToDate Inc. http://www.uptodate.com. (Accessed on Jan 15, 2023.)
5. Marion DW. Fexofenadine: Drug information. Post TW, ed. UpToDate. Waltham, MA: UpToDate Inc. http://www.uptodate.com. (Accessed on Jan 15, 2023.)
6. Nasonex® Package leaflet. [Internet]. [cited 2023 Jan 15]. Available from: https://www.medicines.org.uk/emc/files/pil.1663.pdf
7. Dymista® consumer medicine information. [Internet]. [cited 2023 Jan 15]. Available from: https://www.nps.org.au/assets/medicines/9870cb77-4daf-4e10-8878-a53300ff920e.pdf
8. Horak F. Effectiveness of twice daily azelastine nasal spray in patients with seasonal allergic rhinitis. Therapeutics and Clinical Risk Management 2008;4(5):1009-22.

Keywords:
fexofenadine, rupatadine, nasonex, mometasone, dymista, fluticasone, azelastine