การพัฒนาตารับและการศึกษาความคงตัวของตารับที่ประกอบด้วยสารสกัดพริก |
| โดย: นายธนพล วงศ์วิรัติ,นายวิภาส เมลืองนนท์ ปีการศึกษา: 2558 กลุ่มที่: 20 อาจารย์ที่ปรึกษา: พิมลพรรณ พิทยานุกุล , จิราพร เลื่อนผลเจริญชัย ภาควิชา: ภาควิชาเภสัชกรรม Keyword: พริก, พริกกะเหรี่ยง, ฤทธิ์ต้านการอักเสบ, ตารับใช้เฉพาะที่, Capsicum frutescens Linn., chili bird, anti-inflammatory, topical formulation |
| บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของโครงการพิเศษนี้เพื่อพัฒนาตารับใช้เฉพาะที่ประกอบด้วยสารสกัด Capsicum frutescens Linn. extract (CF) จากพริกกะเหรี่ยง (chili bird) ผลสดของพริกถูกนามาสกัดด้วยวิธี solvent extraction โดยใช้ benzene/toluene/ethanol/water เป็นตัวทาละลายในการสกัด สารสกัดถูกทาให้แห้งโดยการระเหยตัวทาละลายและสเปร์ยไดร์ จนได้เป็น ethanol fraction และ benzene fraction สารสกัดทั้งสองส่วนถูกวิเคราะห์หาปริมาณ total capsaicinoids ด้วยวิธี high performance liquid chromatography (HPLC) ฤทธิ์ต้านอักเสบ (anti-inflammation) ของสารสกัดถูกวิเคราะห์ด้วยวิธี anti-lipoxygenase assay สารสกัดพริกทางการค้าได้ถูกนาศึกษาเปรียบเทียบขนานกัน ตารับขี้ผึ้ง hydrophilic ointment USP ได้รับการคัดเลือกและพัฒนาเพื่อใช้เป็นครีมพื้นในการเตรียมตารับที่ประกอบด้วยสารสกัด CF ในความเข้มข้น 0.0125% w/w และ 0.025% w/w ตารับที่เตรียมขึ้นถูกประเมินความคงตัวทั้งทางกายภาพและทางเคมีที่อุณหภูมิ 30°C ในระยะเวลา 28 วัน นอกจากนี้ยังได้ทาการประเมินการออกฤทธิ์ต่อผิวหนังเบื้องต้นในอาสาสมัคร 16 คน เปรียบเทียบกับครีมเบสที่ไม่มีตัวยาสาคัญ ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดพริกส่วน benzene fraction 100 มิลลิกรัม ประกอบด้วย capsaicinoids 3.38 ± 0.18 มิลลิกรัม แต่ไม่พบ capsaicinoids ในส่วนของ ethanol fraction สารสกัดพริกทางการค้าและสารสกัดพริกส่วน ethanol fraction แสดงฤทธิ์ต้านอักเสบแปรผันตามความเข้มข้น โดยมีค่าความเข้มข้นของ IC50 2,358.66 ± 136.23 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และ 11.85 ± 1.44 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามลาดับ ตารับที่พัฒนาได้แสดงผลความคงตัวดีที่อุณหภูมิ 30°C และออกฤทธิ์ต่อผิวหนังดีจากการทดสอบเบื้องต้น |
| abstract: The purpose of this special project was to develop topical preparations containing Capsicum frutescens Linn. extract (CF) from ‘chili bird’. Fresh whole fruits of CF were extracted by solvent extraction technique using benzene/toluene/ethanol/water as extracting solvents. The solvents were evaporated and spray dried to obtain benzene fraction and ethanol fraction. The extracts were analyzed for its total capsaicinoids contents using high performance liquid chromatography method. The anti-inflammatory activities of the extracts were determined by anti-lipoxygenase assay. The commercial sample of CF extract was studied in parallel for comparison. Hydrophilic ointment USP was selected and modified as ointment base for preparing preparations containing capsaicinoids ranging from 0.0125% -0.025% w/w. The preparations were evaluated for their physical and chemical stabilities for 28 days at 30°C. Moreover, the preparations were tested on skin in 16 volunteers as a preliminary efficacy screening study compared with placebo. It was found that 100 mg of the extract from benzene fraction contains 3.38 ± 0.18 mg of capsaicinoids but it was absence from ethanol fraction. The commercial sample and the extract of the ethanol fraction demonstrated dose-dependent activities for anti-inflammatory with IC50 of 2,358.66 ± 136.23 μg/mL and 11.85 ± 1.44 mg/mL, respectively. All preparations exhibited good stabilities at 30°C and good efficacy in preliminary screening. |
| . |