ประสิทธิผลของ Topiramate และ Sodium Valporate ในการป้องกันไมเกรน

ไมเกรนจัดเป็นโรคเรื้อรัง ที่ก่อให้เกิดความรำคาญและสูญเสียคุณภาพชีวิต ยาที่มักใช้ป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรน ได้แก่ beta-blockers, amticonvulsants, calcium channel blockers, serotonin antagonists, tricyclic antidepressants, monoamine oxidase inhibitors และ anticonvulsant agents แต่ยาเหล่านี้หลายชนิดก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่ทำให้ผู้ป่วยไม่ร่วมมือในการรักษาอย่างต่อเนื่อง ยาที่มีประสิทธิผลในการป้องกันไมเกรนได้ดีที่สุด เช่น topiramate และยากันชัก

การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบ randomized, double-blind, crossover, clinical trial นาน 24 สัปดาห์ เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลของ topiramate กับ sodium valporate ในการป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนในผู้ป่วยไมเกรน ระหว่างเดือนตุลาคม 2003 ถึงกันยายน 2004 จำนวน 64 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ทำในผู้ป่วย 32 คนให้รับประทาน topiramate ขนาด 25 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง สามารถเพิ่มขนาดยาได้เป็น 50 มิลลิกรัม ให้ยาเป็นเวลา 2 เดือน แล้วเปลี่ยนเป็นรับประทาน sodium valporate ขนาด 200 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 400 มิลลิกรัม เป็นเวลา 2 เดือนเช่นกัน โดยมี wash out period คือ 2 เดือน กลุ่มที่ 2 ทำในผู้ป่วย 32 คน แต่ให้รับประทาน sodium valporate ก่อน แล้วจึงรับประทาน topiramate ระยเวลาในการรับประทานยาเหมือนกับในกลุ่มที่ 1 ประเมินผลผู้ป่วยในสัปดาห์ที่ 0, 1, 8 หลังจากเริ่มให้รับประทานยา พบว่า ผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มให้ความร่วมมือในการรับประทานยาดี อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นเป็นแบบไม่รุนแรง อาการข้างเคียงของ topiramate คือ น้ำหนักลดและอาการชา ส่วนอาการข้างเคียงของ sodium valporate คือ น้ำหนักเพิ่ม ผมร่วง และง่วงนอน และพบว่าหลังจากรับประทานยาแล้วผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มมีความถี่, ความรุนแรง และระยะเวลาของการปวดศีรษะในแต่ละเดือนน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในผู้ป่วยที่รับประทาน sodium valporate มีความถี่ของการปวดศีรษะลดลงจาก 5.4 เป็น 4.0 ครั้งต่อเดือน, ความรุนแรงจากการปวดศีรษะลดลงจาก 7.7 เป็น 5.8 (วัดจาก visual analog scale) และระยะเวลาการปวดศีรษะลดลงจาก 21.3 เป็น 12.3 ชั่วโมง (p<0.001) ส่วนในผู้ป่วยที่รับประทาน sodium valporate มีความถี่ของการปวดศีรษะลดลงจาก 5.4 เป็น 3.2 ครั้งต่อเดือน, ความรุนแรงจากการปวดศีรษะลดลง 6.9 เป็น 3.7 และระยะเวลาการปวดศีรษะลดลงจาก 17.3 เป็น 3.9 ชั่วโมง (p<0.001) และเมื่อผู้ป่วยเปลี่ยนยาจาก topiramate เป็น sodium valporate หรือจาก sodium valporate เป็น topiramate ก็ให้ผลของความถี่, ความรุนแรง และระยะเวลาของการปวดศีรษะในแต่ละเดือนไม่แตกต่างกัน ดังนั้นทั้ง topiramate และ sodium valporate จึงมีประสิทธิผลในการรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนได้เช่นเดียวกัน